ประเทศญี่ปุ่นคือจุดเปลี่ยนชีวิต คอนโด ‘มุกดา นรินทร์รักษ์’ เก็บออม หลังเป็นนางเอกดัง
“มุกดา นรินทร์รักษ์” มิสทีนไทยแลนด์ 2011 ในครานั้นเพียง 15 ปี หลังจากรับตำแหน่งเธอแทบจะเลือนหายไปจากวงการบันเทิง ชื่อ หน้าตาแทบจะไม่เป็นที่จดจำของใครๆ
เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี เธอถูกกล่าวถึงและได้รับความสนใจยิ่งกว่ามีมงกุฎใดสวมศีรษะ นั่นเพราะรูปลักษณ์ที่โดดเด่น สวยหวานก็เป็น เปรี้ยวซ่าก็ได้ ชวนมองก็ดี เรียกได้ว่า
กลับมาอีกครั้งครบเครื่อง ปรับเปลี่ยนเป็นนางแบบ การก้าวเขาสู่วงการบันเทิงในวัย 15 สำหรับ “มุกดา” ยังจัดระดับอ่อนหัด ส่วนทัศนคตินั้นยังไม่พร้อมที่จะลุยงาน
สิ่งเหล่านี้เธอรู้ตัวเอง และจากเสียงคนรอบข้างที่แว่วมากระหน่ำให้รู้สึกไม่มั่นใจเข้าไปอีก ต้องมีบ้างละที่คิดท้อ น้อยใจ ในระหว่างปี 2012 “มุกดา” ได้รับเลือกเป็นตัวแทนนางเเบบไทย
ร่วมงานในฐานะนางแบบประจำนิตยสาร Ray ประเทศญี่ปุ่น 1 ปี จุดนี้ละที่เปลี่ยนหลายๆสิ่ง จนมาเป็น “มุกดา” ในวันนี้ “มุกดา” เล่าย้อนไปถึงประสบการณ์ที่ญี่ปุ่น ที่สอนการโพส
อย่างนางแบบอาชีพจนเธอติดนิสัยโพสจิกเป็นนางแบบประจำแม้กระทั่งท่านั่ง “ตอนนั้นคิดว่าตัวเองไม่สวยไม่เหมาะที่จะทำงานในวงการบันเทิง แต่พอไปญี่ปุ่นได้เห็นโลกมากขึ้น”
“กว่าคนอื่นจะมาอยู่จุดนี้ได้เขาต้องพยายามอะไรบ้าง เขาต้องแก้ไขอะไร กลับมาที่เรา 15 เอง แล้วก็นั่งนอยด์ๆคนเดียว ไม่ได้ลุกขึ้นทำอะไรเลย เมื่อก่อนแต่งตัวไม่เป็น”
“ชอบใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ไม่แต่งหน้า เหมือนบ้านนอก ก็ได้เรียนรู้แฟชั่น แต่งหน้า ม้วนผม ค่อยๆปรับให้ตัวเองดูดีขึ้น แต่งหน้าเองทุกวันจนชิน จนแต่งหน้าได้หลายแบบ”
“สร้างลุคไว้ป้องกันตัวเอง ที่นั่นสอนโพสยังไง ยิ้มยังไง สื่อสายตายังไง นางแบบญี่ปุ่นไม่ถึงนาทีเขาโพสได้ 20-30 ท่า หนูก็อึ้ง เหมือนเขาไม่คิดอะไรเป็นท่าในชีวิตประจำวันของเขา”
“เขาสอนให้โพสเป็นธรรมชาติ ท่ายืนท่านั่งเป็นท่าโพสได้หมด ตอนนี้ขนาดเล่นละครขาหนูจะพอยต์ไปเองซึ่งหนูไม่รู้ตัว เขาให้ยืนปกติขาก็พอยต์อยู่นิ่ง เท้าอัตโนมัติ”
เรียนซ้อมเป็นนางเอก แสดงละคร เป็นอีกหนึ่งงานที่ “มุกดา” อยากทำ แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่มีมาให้ชิมลางเลย แต่เธอก็ยังไม่หยุดเตรียมความพร้อมเพื่อรอโอกาส
จนในที่สุดช่อง 7 สี ก็ส่งละคร ขมิ้นกับปูน มาให้ “ลงเรียนแอ็กติ้งสองสามที่ ค่าใช้จ่ายออกเองหมด เพราะช่วง 2-3 ปีหลังจากประกวดไม่มีงานเลย ช่วงนั้นเก็บกดมาก”
“ก็พิจารณาตัวเอง ไม่สวย แอ็กติ้งไม่ได้ ที่ผ่านมาแคสละครมาสองสามครั้ง ตอนนั้นยังเล็กมากยังไม่ใช่ลุคที่จะทำงานได้ขนาดนี้ ตอนนั้นการตอบคำถามหนูก็ตอบไม่ได้เลย”
“ไม่กล้าแสดงออก ความพร้อม ความมั่นใจก็ไม่ดี เลยคิดว่าต้องทำอะไรเพิ่ม มีเรียนเฉพาะจุดด้วย อย่างเรียนการพูด เพราะหนูพูดไม่ชัด ติดสำเนียงเหน่อใต้”
“ที่ผ่านมาโดนแซวก็มีนอยด์จนไม่อยากทำงานในวงการบันเทิง อาจารย์ให้อ่านหนังสือให้ฟัง เน้นเป็นคำๆ คำนี้ต้องใช้ลิ้นแบบนี้ เรียนอยู่ 5 เดือนค่ะ จากนั้นก็ค่อยๆฝึกเอง”
“ฝึกพูดกับคนอื่น ตอนแรกประกวดยืนอยู่บนเวทีตัวสั่นมาก คิดว่าตัวเองไม่เหมาะ ไม่อยากคุยกับใคร อยู่โลกตัวเอง หลังๆพี่ๆก็บอกข้อเสียว่าควรปรับ ควรแก้อะไร”
“พูดกับตัวเองในกระจก พูดกับคนเยอะๆ ตอนนี้ให้คะแนนตัวเอง พูดชัดขึ้นแต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ จนได้งานละครโล่งใจมากค่ะ ความรู้สึกคือ ได้สักที รอมาสามสี่ปีแล้วนะ”
“ในที่สุดก็ได้แล้วนะที่หวังมาทั้งหมด โล่งใจมากกว่าดีใจเพราะคิดว่าชาตินี้หนูจะไม่ได้เล่นละคร พอมาตอนนี้มั่นใจขึ้นเยอะ รู้สึกเรียนมาเยอะแล้วขอลองใช้บ้างเถอะ”
สงวนลิขสิทธิ์ © 2020 สำนักข่าวทัตสโตร์ออนไลน์ TRUSTSTORE ONLINE BY OKINFINITY LIMITED PARTNERSHIP (THAILAND)